การพัฒนาของประติมากรรมไฟเบอร์กลาสในศิลปะสมัยใหม่
จากวัสดุอุตสาหกรรมสู่สื่อทางศิลปะ
ไฟเบอร์กลาสเริ่มต้นชีวิตในฐานะวัสดุที่ถูกใช้ทำโรงงานและคลังสินค้าในสมัยก่อน แต่ต่อมาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในการสร้างบ้านและผลิตรถยนต์ เนื่องจากมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง และไม่เป็นสนิมตามกาลเวลา ต่อมาเมื่อราวครึ่งศตวรรษที่แล้ว กลุ่มคนสร้างสรรค์เริ่มมองว่าไฟเบอร์กลาสไม่ใช่เพียงแค่วัสดุพลาสติกสำหรับทำเรือ แต่ยังสามารถขึ้นรูปเป็นประติมากรรมขนาดใหญ่ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ตัวอย่างเช่น Claes Oldenburg ที่มองว่าไฟเบอร์กลาสเป็นวัสดุที่ยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยให้เขาสามารถสร้างชิ้นงานขนาดใหญ่ที่เป็นไปไม่ได้หากใช้ไม้หรือหิน อะไรที่ทำให้ไฟเบอร์กลาสมีความพิเศษ? คำตอบคือ มันสามารถงอได้โดยไม่แตกหัก และทนทานต่อสภาพอากาศ ซึ่งหมายความว่าศิลปินสามารถปล่อยจินตนาการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มที่ โดยยังคงความสมบูรณ์ของชิ้นงานเอาไว้ ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญทางด้านศิลปะส่วนใหญ่เห็นพ้องว่า การนำวัสดุจากอุตสาหกรรมมาใช้แทนที่จะเป็นเพียงแค่สีและผ้าใบก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้แล้ว มีนักวิจารณ์ชื่อดังกล่าวไว้ว่า การนำวัสดุอย่างไฟเบอร์กลาสมาใช้ได้นำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ที่หลากหลายให้กับศิลปินในปัจจุบัน และถ้าหากมองไปยังแกลเลอรี่ต่างๆ ทั่วประเทศ ก็สามารถเห็นได้ว่าผู้คนเริ่มให้คุณค่ากับนวัตกรรมเช่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
จุดสำคัญในงานศิลปะไฟเบอร์กลาส
ศิลปะไฟเบอร์กลาสสร้างความฮือฮาในงานแสดงศิลปะระดับสำคัญหลายแห่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์ไวท์นีย์แห่งศิลปะอเมริกัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำให้ศิลปะประเภทนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวได้นำเสนอผลงานอันน่าทึ่ง รวมถึงผลงานประติมากรรมขนาดใหญ่ในเมืองของคลาส ออลเดนเบิร์ก (Claes Oldenburg) ซึ่งสร้างความประทับใจให้ผู้ชมด้วยขนาดอันมหึมาและรายละเอียดอันวิจิตรงดงาม ศิลปินหลายคนที่ทำงานด้วยสื่อไฟเบอร์กลาสก็ได้รับการยอมรับอย่างจริงจังเช่นกัน องค์กรต่างๆ ในวงการศิลปะมักจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของศิลปินเหล่านี้ในการเปลี่ยนแปลงขีดจำกัดที่เป็นไปได้ในงานประติมากรรม เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในเรื่องราวนี้ด้วย เทคนิคการผลิตใหม่ๆ ช่วยให้ศิลปินสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดที่เคยมีอยู่เดิม สร้างสรรค์รูปทรงและรูปแบบที่แต่ก่อนเป็นไปไม่ได้ ด้วยความก้าวหน้านี้ ศิลปินจึงคิดถึงโครงการของตนเองในมุมมองที่แตกต่างออกไป ทดลองใช้วัสดุในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเปิดโอกาสในการสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ไฟเบอร์กลาสยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะรูปแบบหนึ่งของศิลปะ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเมื่อเทคนิคเก่าๆ ผสานเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่แล้ว จะสามารถเกิดสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้มากมายเพียงใด
ข้อดีของการใช้ไฟเบอร์กลาสสำหรับผลงานประติมากรรมชั้นยอด
ความทนทานสำหรับการจัดแสดงทั้งภายในและภายนอกอาคาร
งานแกะสลักจากไฟเบอร์กลาสโดดเด่นด้วยความทนทานที่ยาวนานไม่ว่าจะนำไปวางไว้ภายในหรือภายนอกอาคาร วัสดุนี้ไม่เสื่อมสภาพง่ายตามกาลเวลา ทำให้ผลงานศิลปะเหล่านี้ยังคงสภาพดีแม้จะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก ผู้ดูแลงานติดตั้งศิลปะในที่สาธารณะต่างรู้เรื่องนี้ดี เนื่องจากไฟเบอร์กลาสต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่างานแกะสลักจากไม้หรือโลหะมาก จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ตัวอย่างเช่น งานแกะสลักขนาดใหญ่ที่เราเห็นในสวนสาธารณะของเมืองที่ต้องเผชิญทั้งคลื่นความร้อนในฤดูร้อนและพายุหิมะในฤดูหนาว แต่ยังคงสภาพเกือบใหม่แม้จะอยู่ภายนอกมานานหลายปี นี่จึงทำให้ไฟเบอร์กลาสเป็นทางเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานเพื่อให้อยู่รอดได้ทุกที่ที่นำไปตั้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
ลักษณะเบาและยืดหยุ่นในการติดตั้ง
ไฟเบอร์กลาสได้รับคำชื่นชมมากมาย เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนย้ายและติดตั้งง่ายกว่าวัสดุแบบดั้งเดิมที่หนักกว่ามาก ความที่มีน้ำหนักไม่มากนักนี้มีความสำคัญอย่างมากเมื่อต้องทำงานโครงการใหญ่ในพื้นที่เขตเมือง ลองจินตนาการดูว่าคุณพยายามเคลื่อนย้ายประติมากรรมขนาดใหญ่ไปติดตั้งบนทางเท้าแคบๆ หรือในที่สูงๆ ศิลปินที่ใช้ไฟเบอร์กลาสทำงานเป็นประจำมักพูดถึงความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นเมื่อไม่ต้องลำบากยกงานที่ทำจากหินหรือโลหะที่หนักมหาศาล อีกทั้งมีศิลปินคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเขาติดตั้งผลงานขนาดใหญ่ไว้บนดาดฟ้าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหากใช้วัสดุอื่นคงเป็นไปไม่ได้เลย และเรายังได้เห็นผลงานที่น่าทึ่งแขวนอยู่บนผนังด้านหน้าของอาคารต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการใช้งานของวัสดุนี้สำหรับงานศิลปะร่วมสมัยในเมือง
ความทนทานต่อสภาพอากาศในประติมากรรมไฟเบอร์กลาสขนาดใหญ่
อะไรที่ทำให้ไฟเบอร์กลาสเหมาะสำหรับงานศิลปะภายนอกอาคารมากนัก? คำตอบคือองค์ประกอบทางเคมีของมันที่ให้คุณสมบัติกันน้ำและทนต่อสภาพอากาศ ซึ่งช่วยปกป้องรูปสลักจากทุกสิ่งที่ธรรมชาติจะท้าทายมา ลองดูผลงานขนาดใหญ่ของ Claes Oldenburg ที่เราเห็นอยู่ตามเมืองต่างๆ สิ่งเหล่านั้นสามารถทนแดด ทนพายุ แม้แต่หิมะในฤดูหนาวมาหลายปีโดยที่สภาพไม่เสื่อมโทรมมากนัก ศิลปินส่วนใหญ่ที่สร้างงานภายนอกอาคารมักเลือกใช้ไฟเบอร์กลาสแทนวัสดุแบบดั้งเดิม เช่น ไม้หรือโลหะ เพราะไฟเบอร์กลาสไม่สลายตัวหรือเสียหายง่ายแบบวัสดุเหล่านั้น วัสดุชนิดนี้สามารถทนต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงขั้นสุดตลอดทั้งปี แถมยังไม่เป็นสนิมหรือเน่าเปื่อยเมื่อโดนน้ำ นั่นจึงหมายความว่าผลงานสลักจะคงความสวยงามไว้ได้นาน และรักษามูลค่าทางสายตาและความแข็งแรงทางกายภาพไว้ได้ดี ไม่ว่าจะนำไปตั้งแสดงไว้ที่ใดก็ตาม
สรุปได้ว่า เส้นใยแก้วมีข้อดีที่ปฏิเสธไม่ได้สำหรับผลงานประติมากรรมชั้นยอดผ่านความทนทาน น้ำหนักเบา และคุณสมบัติต้านทานสภาพอากาศ คุณลักษณะเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มอายุการใช้งานและความยืดหยุ่นในการติดตั้งของประติมากรรม แต่ยังเปลี่ยนแนวความเป็นไปได้ในศิลปะสมัยใหม่อีกด้วย
สำรวจคอลเลกชันประติมากรรมเส้นใยแก้วหลากหลายแบบ
ประติมากรรมสัตว์เส้นใยแก้วที่เต็มไปด้วยจินตนาการ
รูปปั้นสัตว์จากไฟเบอร์กลาสที่ทำจากวัสดุสีสันสดใสสามารถเพิ่มความมีชีวิตชีวาและสร้างสรรค์ให้กับพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างมาก ปัจจุบันผู้คนสามารถพบเห็นการออกแบบที่หลากหลาย เช่น สัตว์ป่าจากสวนสัตว์ สิ่งมีชีวิตจากตำนานต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งสิ่งของที่ดูเหมือนออกมาจากนิทานพื้นบ้าน ศิลปินอย่างเช่น เจฟฟ์ คูนส์ (Jeff Koons) ได้รับความนิยมจากการสร้างผลงานในลักษณะนี้ เราสามารถพบเห็นรูปปั้นเหล่านี้ได้ทั่วไปตามสวนสาธารณะ ด้านนอกสวนสัตว์ และแม้แต่ภายในพิพิธภัณฑ์ ความพิเศษของมันอยู่ที่สามารถดึงดูดสายตาและกลายเป็นจุดนัดพบที่ผู้คนหยุดถ่ายรูปหรือมองด้วยความประทับใจ ชุมชนต่างชื่นชอบการติดตั้งผลงานศิลปะที่สะดุดตาเช่นนี้ เพราะสามารถดึงดูดผู้คนให้มารวมตัวกันและกระตุ้นให้เกิดการสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างคนแปลกหน้าที่อาจไม่เคยได้พูดคุยกันมาก่อน
การออกแบบประติมากรรมสีเข้มในสไตล์ไฟเบอร์กลาสแบบนามธรรม
เมื่อทำงานกับไฟเบอร์กลาส งานแกะสลักเชิงนามธรรมก็เปิดโอกาสให้เกิดการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด จนกลายเป็นชิ้นงานที่สะดุดตาและน่าประทับใจหลายคนพบว่าวัสดุชนิดนี้ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากรูปทรงดั้งเดิม และสร้างสรรค์รูปแบบที่ไม่สามารถจำกัดอยู่ในกรอบใดๆ ได้เลย ตัวอย่างเช่น งาน Blucifer ของหลุยส์ จิเมเนซ ที่สนามบินเดนเวอร์ วัวสีฟ้าขนาดใหญ่นี้กลายเป็นตำนานท้องถิ่นไปแล้วตั้งแต่ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2006 คนต่างก็มีทัศนคติที่แตกต่างกัน บางคนรักมัน บางคนเกลียดมัน แต่ไม่มีใครเลยที่จะเดินผ่านโดยไม่สังเกตเห็น สิ่งที่ทำให้ผลงานนามธรรมแบบนี้ทรงพลังคืออะไร? งานเหล่านี้มักปลุกเร้าความรู้สึกที่เราไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ในจิตใจ และทำให้เราต้องตั้งคำถามใหม่ว่าศิลปะคืออะไร นักวิจารณ์มักชี้ให้เห็นว่าผลงานประติมากรรมลักษณะนี้บังคับให้เราเห็นสิ่งต่างๆ แตกต่างจากมุมมองปกติของเรา บางครั้งก็จุดประกายให้เกิดการถกเถียงที่ลึกซึ้งเกินกว่ากำแพงของแกลเลอรี่ออกไป
ผลงานศิลปะบนผนังประติมากรรมไฟเบอร์กลาสแบบพลวัต
งานแกะสลักผนังจากไฟเบอร์กลาสผสมผสานระหว่างความเป็นจริงทางกายภาพของงานแกะสลักกับความคิดสร้างสรรค์เชิงศิลปะ ทำให้ผนังเปลี่ยนไปจากพื้นผิวธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่มีความหมายมากกว่าเดิม ในปัจจุบันผู้คนต่างเริ่มสังเกตเห็นผลงานเหล่านี้ได้ทุกที่ เนื่องจากมันสามารถสร้างบรรยากาศที่ลึกซึ้งและน่าสนใจให้กับห้องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในห้องนั่งเล่นของบ้าน ล็อบบี้สำนักงาน หรือแม้แต่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ศิลปินที่ใช้ไฟเบอร์กลาสสร้างสรรค์ผลงานต่างก็พัฒนาเทคนิคที่โดดเด่นเพื่อให้ผลงานของตนมีลักษณะการเคลื่อนไหวและพื้นผิวที่หลากหลายจนสะดุดตา ตัวอย่างเช่น เฮเธอร์ แยนช์ (Heather Jansch) ที่สร้างสรรค์ผลงานธีมม้าที่ดูเหมือนมีชีวิต ราวกับเคลื่อนไหวไปตามผนังแม้จะถูกยึดติดอยู่กับที่ งานเหล่านี้จึงไม่ได้ทำหน้าที่เพียงตกแต่งให้สถานที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงการรับรู้ของผู้คนที่มีต่อพื้นที่รอบข้างอีกด้วย
กระบวนการสร้างสรรค์เบื้องหลังผลงานศิลปะจากไฟเบอร์กลาส
เทคนิคการหล่อสำหรับรูปร่างที่ซับซ้อน
เมื่อพูดถึงการสร้างชิ้นงานศิลปะจากไฟเบอร์กลาสที่มีรายละเอียดสูง ศิลปินส่วนใหญ่จะพึ่งพาเทคนิคการขึ้นรูปพิเศษ เช่น การขึ้นรูปแบบเปิดและแบบปิด เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ผู้สร้างสามารถทำรูปทรงที่ซับซ้อนได้ ซึ่งจะเป็นเรื่องยากมากหากใช้วัสดุอื่น ทำให้ได้ผลงานที่น่าทึ่งและท้าทายแนวคิดเดิมๆ เกี่ยวกับศิลปะ ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในอุตสาหกรรมหลายคนได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการใช้วิธีการเหล่านี้เพื่อสร้างสรรค์รูปสลักที่ยอดเยี่ยม ลองนึกถึงบุคคลอย่าง จอห์น ดี (John Doe) ที่สร้างรูปคลื่นอันน่าทึ่งจนดูเหมือนมีชีวิตจริง เทคนิคในลักษณะนี้ได้เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับศิลปินในการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ และยังคงผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในการสร้างสรรค์งานประติมากรรมในปัจจุบัน
การทาสีและการตกแต่งเพื่อผลกระทบเชิงภาพ
ผลงานแกะสลักไฟเบอร์กลาสจะดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเมื่อศิลปินใส่ใจและทุ่มเทกับการลงสีและการตกแต่งขั้นสุดท้าย ศิลปินมืออาชีพส่วนใหญ่ใช้เทคนิคการลงสีหลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งเคลือบด้วยสารป้องกันพิเศษ เพื่อรักษาสภาพของผลงานให้คงทนสวยงามไปอีกหลายปี บางคนชอบใช้สีอะคริลิกเพื่อให้ได้ผิวเงา ส่วนอื่นๆ อาจเลือกเรซินอีพ็อกซี่ที่ให้ผลลัพธ์ความลึกที่ดูน่าสนใจ การเลือกวัสดุนั้นมีความสำคัญ เนื่องจากมันส่งผลต่อบรรยากาศโดยรวมของผลงาน และวิธีที่แสงจะตกกระทบกับพื้นผิว ผู้ที่สนใจงานประเภทนี้ควรไปร่วมเวิร์กช็อปที่จัดโดยศิลปินที่มีประสบการณ์ เพื่อชมการแสดงเทคนิคต่าง ๆ ด้วยตาตนเอง การเห็นว่าพวกเขาผสมสีอย่างไร ลงสีเป็นชั้น ๆ อย่างไร และจัดการกับพื้นผิวโค้งที่ดูแล้วท้าทายนั้นทำอย่างไร จะช่วยให้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างผลงานที่ออกมาได้แค่พอใช้ กับผลงานที่โดดเด่นและน่าทึ่งจริง ๆ
ร่วมมือกันในโครงการประติมากรรมแบบกำหนดเอง
การสร้างรูปปั้นไฟเบอร์กลาสแบบสั่งทำพิเศษมักต้องอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างศิลปินกับลูกค้า ซึ่งมักจะได้ผลงานที่ไม่ซ้ำใครและสะท้อนความต้องการของผู้คนได้อย่างแท้จริง บางครั้งความร่วมมือนี้กลายเป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อผู้คนทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ การทำงานแบบสั่งทำพิเศษอาจมาพร้อมกับความยุ่งยากบ้าง แต่ก็ยังคงให้ความพึงพอใจอย่างมาก กระบวนการทั้งหมดนี้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในแบบที่งานมาตรฐานทั่วไปไม่สามารถให้ได้ ผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มโครงการสั่งทำพิเศษควรใช้เวลาศึกษาให้เข้าใจว่าความร่วมมือนี้มีลักษณะการทำงานอย่างไรในทางปฏิบัติ แทนที่จะคิดว่าทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างราบรื่นตั้งแต่วันแรก
การผสานประติมากรรมไฟเบอร์กลาสในพื้นที่ยุคใหม่
การติดตั้งศิลปะสาธารณะที่มีความน่าสนใจอย่างยั่งยืน
งานแกะสลักไฟเบอร์กลาสมีบทบาทสำคัญมากในพื้นที่สาธารณะ เมื่อพูดถึงการดึงดูดความสนใจของผู้คนและเปลี่ยนโฉมหน้าของชุมชนโดยรวม งานศิลปะขนาดใหญ่เหล่านี้กลายเป็นจุดนัดพบที่ผู้คนมักจะหยุดถ่ายรูป และบางครั้งอาจปีนขึ้นไปนั่งเล่นได้ ทางเมืองต่างๆ เองก็สังเกตเห็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเช่นกัน พื้นที่ที่มีการติดตั้งผลงานลักษณะนี้ มักจะมีจำนวนผู้คนเดินผ่านไปมาเพิ่มขึ้นในบริเวณใกล้เคียง บางเมืองมีการติดตามข้อมูลเหล่านี้อย่างเป็นทางการ และพบว่าจำนวนผู้มาเยือนเพิ่มขึ้นประมาณ 25% หลังจากติดตั้งงานศิลปะไฟเบอร์กลาส ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจมาก เมื่อเทียบกับงบประมาณที่เมืองต่างๆ ต้องใช้จ่ายไปกับโครงการศิลปะสาธารณะในปัจจุบัน เมื่อผู้ว่าราชการเมืองหรือผู้บริหารอนุมัติให้ติดตั้งผลงานเหล่านี้ พวกเขาไม่ได้แค่เพียงทำให้ถนนหน้าตาดีขึ้น แต่กำลังสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างประชาชน ซึ่งจะเริ่มรู้สึกภาคภูมิใจในถิ่นที่อยู่อาศัยของตนเอง และพัฒนาการชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ดีขึ้นในระยะยาว
ยกย่องการตกแต่งบ้านด้วยงานประติมากรรมที่โดดเด่น
ผู้มีบ้านจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆ กําลังเข้ามาใช้งานรูปปั้นจากไฟเบอร์กลาส ในปัจจุบันนี้ โดยใช้มันเพื่อสร้างการออกแบบที่มีความแรง และผสมผสานศิลปะกับชีวิตประจําวัน ลองดูเว็บไซต์ตกแต่งบ้านทุกๆเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต และเห็นได้ชัดว่า มีความสนใจมากกว่าในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความสัมผัสศิลปะ ที่แสดงถึงรสชาติพิเศษของใครบางคน อยากได้อะไรที่โดดเด่นจริงๆไหม เลือกชิ้นที่เข้ากับสิ่งที่มีอยู่ในห้องแล้ว แทนที่จะชนกัน วางสิ่งของที่น่าจับตาไว้ที่ที่มันจะดึงดูดสายตาได้ โดยธรรมชาติ เช่น ใกล้ประตูหน้าบ้าน หรือในห้องนั่งเล่นที่แขกจะมาพัก การทําแบบนี้ทําให้บ้านทั้งหลังดูดีขึ้น และสร้างอารมณ์ที่เหมาะสมกับใครก็ตามที่เดินเข้าไปในประตู
พื้นที่องค์กรที่ได้รับการปรับปรุงด้วยความมหัศจรรย์ทางศิลปะ
การเพิ่มงานศิลปะเข้าไปในพื้นที่สำนักงาน โดยเฉพาะผลงานที่ทำจากไฟเบอร์กลาส จะช่วยสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Microsoft ต่างเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการนำศิลปะเข้ามาไว้ในออฟฟิศ โดยพวกเขาทำงานร่วมกับศิลปินโดยตรง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดขององค์กร มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมายจากการทำแบบนี้ งานศิลปะที่จัดวางอยู่ตามสำนักงานจะช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจให้แก่พนักงาน กระตุ้นให้คนคิดนอกกรอบ และเสริมสร้างการจดจำแบรนด์ขององค์กรให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น การมีองค์ประกอบทางศิลปะในพื้นที่ทำงานนั้นไม่ได้ช่วยเพียงแค่ให้สถานที่ดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้บรรยากาศโดยรวมของที่ทำงานรู้สึกมีชีวิตชีวาและสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรธุรกิจทุกแห่งต่างปรารถนาจะมีในปัจจุบัน เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน